วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

ดอกไม้ปลูกเอง...ในสวนเรา...ไม่ต้องรอใครเด็ดมาให้...

ผมชอบดอกไม้นะมันสวยดี
หลายคนก็คงคิดแบบนั้น...
พอเจอดอกไม้สวยที่ไหนก็อดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปมันเก็บเอาไว้....
ด้วยกล้องในมือถือนี่แหละครับ   ง่ายดี
..........................
ผมมีคนในความทรงจำมากมาย
เวลาที่ผมคิดถึงพวกเขาก็มักจะถ่ายรูปดอกไม้เก็บไว้
คิดว่าสักวันจะได้เอาให้พวกเขาดู

ช่วงปี 51 ปีนั้น อกหัก แถมตกงานอีก
คนที่รู้จักนับถือกันเลยชวนไปอยู่เชียงใหม่ด้วยกัน
อยู่ที่นั่นไม่รู้จักใครเลยครับ
 คงเพราะกำลังเศร้าอยู่มั้งครับ มนุษยสัมพันธ์เลยแย่นิดหน่อย
(อยู่นั่นปีหนึ่งไม่มีเพื่อนเลย)
เลยปลูกดอกไม้เล่นๆไปวันๆ
..................................
ดอกไม้ดอกแรกที่ถ่ายที่เชียงใหม่ครับ ไม่ได้ปลูกเอง
 แอบถ่ายของบ้านข้างๆเขา

สระบัวหน้าบ้านสวนครับ ปลาตัวใหญ่มากเลยครับ
 แต่ไม่เคยได้กินเลยสักที บ้านนี้เขาไม่ค่อยชอบฆ่าสัตว์กัน


ดอกนี้ใครบางคนมักจะเรียกมันว่า เชอร์รี่พิงค์ ครับ
เป็นสีที่ผมชอบมากๆเหมือนกัน

ต้นนี้ปลูกอยู่ข้างบันได ตอนนั้นยังต้นเล็กๆอยู่เลย ตอนนี้คงเป็นต้นใหญ่แล้วล่ะ


ดอกนี้มีสามสี ชมพู ขาว เหลือง เสียดายที่ใช้กล้องโทรศัพท์ถ่าย
 เพราะจริงๆแล้วสวยมากเลย



ดอกนี้ ออกม่วงปนชมพูหน่อย แต่แดดจ้าไปนิด


ตอนนี้บานแล้วครับ


ชมพู

ชมพูๆๆ

กุหลาบสีนี้มองทีไรก็ทำให้ใจเต้นแรงทุกทีเลย

...
กุหลาบดอกนี้อยากจะมอบให้ใครบางคนจัง
แต่เขาเคยได้เป็นช่อๆ เขาจะรับของเราใหมน้า

ถ้ามีใครถามว่าดอกนี้ชื่ออะไร
 ผมจะบอกว่า "ธารทิพย์" ครับ

ดอกไม้สวยมากเลย เสียดายคนถ่ายภาพไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่
ขออภัยจริงๆ

วันๆปลูกแต่ดอกไม้

กุหลาบแดง ถ้ามอบให้ใครแล้วเขาจะแก้มแดงรึป่าวนะ

ยายข้างบ้านเคยพูดเอาไว้ว่า
ถ้าเขาเห็นกุหลาบสีนี้เมื่อไหร่เขาจะนึกถึงผมทันทีเลย
ดีใจจัง
(ผมเคยบอกแกไปว่าผมชอบสีนี้ที่สุด)

ดอกชัยพฤกษ์
ต้นคล้ายกับต้นคูนครับ แต่เขาจะออกดอกก่อนต้นคูนประมาณเดือนหนี่ง
บานช่วงเดือนมกราคม
ดอกคูนสีเหลือง ส่วนนี่สีชมพู
ช่อนี้อยู่หน้าบ้านพอดีเลย ดูๆไปก็คล้ายๆซากุระเหมือนกันนะ
ชมพูเหมือนกัน
พอเห็นดอกไม้สวยๆแล้วนึกออกแต่คำว่า
ธารทิพย์ๆ
ไม่รู้ทำไม.ไม่นึกถึง ปานวาด  หรือว่า พอลล่า เลย..(^_^)

พวงนี้ห้อยอยู่หน้าบ้านครับ เอาใจยากมาก...ขอบอก

หรือจะเป็นเหมือนเพลงที่เขาร้อง คนน่ารักมักใจร้าย


...........สองภาพนี้ถ่ายที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่นั่นดอกไม้สวยมากเลย...............


ผมไปปฏิบัติธรรมที่วัด ร่ำเปิง เชียงใหม่ เดือนหนึ่งครับ
ก่อนกลับเลยแอบถ่ายเอาดอกบัวที่วัดมาด้วย บาปจริงๆเลย
ขนาดไปอยู่วัดตั้งเดือน ก็ยังแอบชอบของสวยๆงามๆ
อย่างนี้แสดงว่า ธรรมะ ไม่ค่อยเข้าหัวเท่าไหร่


สองภาพนี้ถ่ายที่ หมู่บ้านม้งดอยปุยครับ
เห็นอย่างนี้ติดจานแดงกันแทบทุกบ้านแล้วนะครับ
ทุกวันนี้สาวดอยเขาลงดอยมาเรียนมหาลัยกันหมดแล้ว

ปิดท้ายด้วย พระธาตุดอยสุเทพ ครับ
เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผมเอง ปีมะแม
..................................

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2553

ช่วงเวลา

1.  หากว่าความรักเป็นเหมือนกับต้นไม้
 เมื่อมันแห้งเหี่ยวตายไป
 เรายังต้องรอเวลาให้รากไม้ที่อยู่ใต้ดินสลายกลายเป็นปุ๋ยไปซะก่อน
ให้ดินนั้นกลับมาอุดมเหมือนเดิม แล้วค่อยปลูกต้นใหม่ลงไป
หากว่ารีบร้อนปลูกเกินไป รากใหม่อาจจะลงไม่ลึกพอเพราะติดรากเก่าที่ยังไม่สลายไป
สุดท้ายมันก็อาจจะโค่นลงอีกก็ได้
......................................
2.  เวลาที่เราสนใจหนังสือซักเล่ม ถ้าเราหยิบขึ้นมาแล้วมีพลาสติกหุ้มอยู่ มั่นใจได้เลยว่ายังเป็นหนังสือใหม่ ยังไม่เคยผ่านมือใครมาเลย แต่เราก็คงต้องจ่ายตังค์ก่อนถึงจะได้รู้ว่าข้างในเขาเขียนอะไรเอาไว้.....
แต่กับหนังสือมือสองบางเล่มมันอาจจะเคยผ่านมือใครต่อใครมากมายแต่ก็เราเปิดอ่านข้างในได้เลยไม่ต้องจ่ายตังค์......บางคนอ่านแค่รู่ว่าเป็นยังไงก็จ่ายตังค์ซื้อ บางคนอ่านได้ครึ่งเล่มก็ซื้อไปอ่านต่อ.....แต่บางคนยืนอ่านอยู่ตรงนั้นจนจบเล่ม....วางไว้ที่เดิม....แล้วหันหลังเดินจากไป...
บางเล่มปกสวย แต่เนื้อหาข้างในก็ไม่ได้ให้สาระที่ถูกใจเราซักเท่าไหร่ บางเล่มปกอ่านจะดูจืดๆ แต่ข้างในอาจจะมีปรัชญาชีวิตลึกซึ้งเขียนเอาไว้ก็ได้
กับหนังสือซักเล่มหากว่าเรามีเวลามากพอที่จะเปิดอ่าน มันมักจะมีเรื่องราวเขียนเอาไว้เสมอ
แต่ก็อีกนั่นแหละหนังสือบางเล่มมันก็เหมาะกับบางคนเท่านั้น
.........................................
3. เช้าวันหนึ่งฉันตื่นนอนขึ้นมา มองไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยซื้อเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าวันนั้นใครคนหนึ่งก็ไปด้วย ฉันพลันนึกไปถึงตอนที่บอกกับเธอว่า ฉันชอบเธอ และในวันนี้ของทุกๆปีฉันก็จะพูดคำๆนี้กับเธอ ในความรู้สึกตอนนั้น พูดเพราะว่ารู้สึกแบบนั้นและอยากจะทำแบบนั้นจริงๆนะ แต่รู้อะไรมั้ยผ่านไปแค่สามเดือนฉันก็นึกหน้าใครคนนั้นไม่ออกแล้ว ทำไมกัน ทั้งที่ตอนนั้นมันมากมาย แต่ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว จืดจาง หายไป ไม่รู้สึกเลยว่ามันเคยเกิดขึ้น คิดแล้วก็น่าใจหาย ว่าเรากลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่
"ชีวิตคนเรามันเป็นแค่ช่วงเวลา"
ใครบางคนเคยพูดเอาไว้เสมอ และมันก็คือความจริงด้วยสิ มีเกิดขึ้น มีจบลง มีพบ มีจาก ทุกคนเหมือนกันหมด ต่างกันแค่ว่าในระหว่างช่วงเวลาเหล่านั้น เรารู้สึกอย่างไร และได้เท่าอะไรเพื่อช่วงเวลาเหล่านั้นมากกว่า ช่วงเวลาบางทีก็สั้น บางทีก็ยืดยาว แต่สุดท้ายมันก็จบลงเหมือนๆกัน
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว แทนที่จะรู้ว่าควรทำให้ดีกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของกันและกัน
ฉันกลับรู้สึกกลัว ไม่ได้ว่ามันจะจบลงเร็วรึป่าว
แต่กลัวว่าสักวันหนึ่ง ความรู้สึกนี้มันจะหายไป
ความรู้สึกที่มีต่อเธอ
..................................................
ฉันคงเศร้าใจอย่างมากมาย จนอาจจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว หากว่าวันหนึ่งข้างหน้า ความรู้สึกที่ต่อเธอในตอนนี้ มันหายไป
ทำอย่างไรดีความรู้สึกที่มีในตอนนี้มันจะอยู่กับฉันตลอดไป แม้ในวันที่เธอจากไปไกลแล้วก็ตาม

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

ถ้าไม่ใช่เธอ

เขียนเอาไว้ประมาณปีที่แล้วครับ.....ไม่อยากแก้เพราะกล้วจะลืมความรู้สึกตอนนั้นไป

หากฉันมิได้เป็นของเธอ

วันที่ไปกาดสวนแก้วขากลับฉันได้หนังถูกใจมาเรื่องหนึ่ง ถ้าบอกออกไปแล้วเหล่าโอตาคุทั้งหลายคงร้องอ๋อกันเป็นทิวแถว ฉันเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ยอมรับตามตรงว่า “มันเจ๋ง” ขนาดว่าครั้งหนึ่งฉันเองเคยมีแฟนที่ไว้ผมทรงเดียวกันกับตัวละครในเรื่องเลยที่เดียว(อายานามิ เรย์) ไม่ว่าจะเป็นต้นฉบับเมื่อ 12 ปีก่อนที่ฉันเองนั่งดูจบไปสามรอบแล้วยังต้องถามตัวเองว่า อะไรของมันวะ ( งง) หรือว่าจะเป็นฉบับ Rebuild ที่เพิ่งออกแผ่นไปไม่นานนี้ นั่นก็คือ ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง EVANGELION:1.01 : YOU ARE (NOT) ALONE นั่นเอง โดยในฉบับสร้างใหม่นี้มีการทำให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น กราฟฟิกสวยขึ้น หลายคนที่ดูแล้วคงพูดได้คำเดียวว่า สุโค่ย หรือถ้าเป็นเด็กแถวบ้านฉันคงจะบอกว่า สุ ย่อ ป่ะ เล่อ รวมถึงเพลงประกอบของภาคนี้ ทั้ง Beautiful world และ fly me to the moon ที่ได้อุทาดะ ฮิคารุ นักร้องคนโปรดของฉันเป็นคนร้องฟังแล้วคงต้องบอกว่า สุโค่ย(อีกที) โดยเฉพาะ beautiful world นั้น ฮิกกี้เป็นคนเขียนเนื้อร้องและเรียบเรียงดนตรีเองอีกด้วย (เพลงนี้รวมอยู่ในอัลบัม heart station วางแผงเมื่อปลายปีที่แล้ว) แต่วันนี้ฉันอยากจะเขียนถึงเพลงประกอบของภาค THE END OF EVANGELION มากกว่า เพราะกลัวว่าหลายคนพอได้ใหม่แล้วจะลืมเก่าเดี๋ยวพอได้หน้าแล้วจะลืมหลังซะยังงั้น สองเพลงในภาคจบของอีวานเกเลี่ยน (If I can’t be yours กับ come, sweet death) ฉันเองคิดว่าก็เพราะไม่แพ้กันเลยทีเดียว


Now it’s time. I fear to tell
(จวบมาถึงเวลา แต่ฉันก็ยังกลัวที่จะกล่าว)

I’ve been holding it back so long.
(สิ่งที่ฉันนั้นได้เก็บซ่อนไว้มานาน)

But something strange deep inside of me is happening.
(แต่มีบางสิ่งที่แปลกกำลังเกิดขึ้นภายในจิตใจของฉัน)

I feel unlike I’ve ever felt And it’s makin’ me scared
(ฉันไม่เคยรู่สึกเช่นนั้นมาก่อน มันทำให้ฉันกลัว)

That I may not be what I (think I am)
(และรู้ว่าแท้ที่จริงฉันมิได้เป็นเช่นดั่งที่ฉันเคยคิด)

What of us, what do I say
(เรา, ฉันจะพูดถึงอย่างไรดี)

Are we both from a different world
(หรือเราต่างก็มาจากพิภพอื่นซึ่งมิใช่ที่นี่)

Cos every breath that I take, I breath it for you
(เพราะทุกลมหายใจของฉันนั้น มันเกิดขึ้นเพื่อเธอ)

I couldn’t face my life without you
(ฉันคงไม่สามารถเผชิญกับชีวิตที่ปราศจากเธอ)

And I’m so afraid. There’s nothing to comfort us
(และฉันก็หวาดหวั่น เพราะไร้สิ่งใดที่จะให้เราได้พักพิง)

What am I, if I can’t be yours.
(ฉันจะเป็นสิ่งใด หากฉันมิได้เป็นของเธอ)

I don’t sleep, don’t feel a thing
(ฉันนอนไม่หลับ ไม่รู้สึกถึงสิ่งใดใด)

And my senses have all but gone
(และทุกสัมผัสต่างมลาย)

Can’t even cry from the pain, can’t shed a tear now
(ไม่อาจแม้แต่จะร้องไห้ให้กับความเจ็บปวด ไม่มีแม้หนึ่งหยาดน้ำตา)

I realize. We’re not the same
(ฉันรู้...เธอกับฉันนั้นแตกต่าง)

And it’s makin’ me sad
(ซึ่งมันทำให้ฉันเสียใจ)

Cos we can’t fulfil our dream (in the life)
(เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เราทั้งคู่นั้นจะร่วมเติมฝันให้เป็นความจริง)

So I must, let us break free
(ไร้หนทาง, เราคงต้องต่างแยกจากไป)

I can never be what you need.
(ฉันไม่เคยเป็นได้ดั่งเธอหวัง)

If there was a way through the hurt, then I would find it
(หากแม้นมีหนทางฉันก็พร้อมที่จะค้นหา)

I’d take the blows. Yes I would fight it
(ผจญฝ่าแม้ว่าจะต้องเจ็บปวด)

But this is the one impossible dream to live
(แต่นั่นคือความฝัน เธอกับฉันมิอาจอยู่กับมันได้)

What am I, if I can’t be yours.
(ฉันจะเป็นสิ่งใดหากฉันมิได้เป็นของเธอ)


THANATOS – IF I CAN’T BE YOURS. (หากฉันมิได้เป็นของเธอ)

อยากฟังก็ตามนี่ไปเลยล่ะกัน ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=42rozNfj0AA

ซากุระร่วง

เมื่อวานแวะไปคุยกับใครบางคนมาครับ อาทิตย์ที่แล้วนี่ยังไม่สบายอยู่เลย ป่วยจนเปลื่อยเลยนิ
แต่มะวานนี้เสียงใสเชียว สงสัยจะหายแล้ว ถึงไม่สนิทดีก็คงดีขึ้นกว่าวันก่อนๆเยอะเลยล่ะ เราก็เลยพลอยยิ้มได้ไปด้วย (ทั้งที่มันอาจจะไม่เกี่ยวกะเราสักหน่อย ^_^ )
ดึกๆแอบไปเที่ยวในเว็ปเลยเจอเพลงนี้เข้า Sakura Drop  ของ อุทาดะ ฮิคารุ อ่านแล้วก็เลยคิดถึงคนที่บอกว่าตัวเองเพิ่งหายป่วยขึ้นมาเลยแอบแกะของชาวบ้านมาอีกแล้ว (นิสัยไม่ดีเลยเรา)
เอาแปะไว้ให้เขาอ่าน
ดอกไม้ร่วงโรย.......แต่ไม่ช้ามันก็จะบานขึ้นมาใหม่
.............................

ซากุระที่ร่วงโรย

กลิ่นของรอยน้ำตา อบอวลสายลมที่แผ่ว
กล่าวอำลาต่อความรัก เสียงหัวใจร่ำร้องด้วยความ heartbreak
ซากูระร่วงโรย ปลิวตามสายธารนที
และมิช้าจะเหี่ยวเฉา ในฤดูใบไม้ร่วง

เหลือเพียงหยาดน้ำตาที่ยังคงไหลรินดั่งสายธาร
ยามเมื่อลมหนาวสัมผัสผิวกาย...แผ่วเบา
ฟ้าเริ่มเปลี่ยนฤดู ภาพละครฉายซ้ำเก่า
ความทรงจำที่ย้อนมาในฤดูร้อน

แล้วทำไมต้องเจ็บปวดซ้ำอีก
อยู่อย่างนี้ วนเวียนเรื่อยไป มิอาจจะรู้จบ
แม้ว่าอย่างไรชีวิตก็ยังต้องสู้เรื่อยไป
นี้คือความมหัศจรรย์ของชีวิต

เมืองที่หนาวเหลือเกิน หิมะที่โถมข้างกาย
อธิษฐานต่อความรัก ขอเพียงใจที่ครวญลืมความ heartbreak
ซากูระร่วงโรย ปลิวตามสายธารนที
และมิช้าจะผลิใบ ผ่านฤดูใบไม้ร่วง

ฟ้าเริ่มปลุกร่างกายให้ตื่นมาพบไอแดดร้อนผ่าว
และคลายความทุกข์สู่หยาดละออง...ยามเช้า


รักคู่เก่าเริ่มสึกและทิ้งไป
ดั่งรองเท้าคู่เดิมของเรา ต้องเปลี่ยนและสวมใหม่
และในทุกๆวันโลกนี้ ก็ยังคงหมุนเรื่อยไป
นี้คือวัฏจักรแห่งชีวิต

กลิ่นของเงาพระจันทร์ อบอวลสายลมที่แผ่ว
ใบต้นหลิวหยอกเอินฝน คืนที่เราเข้าใจถึงความรักจริง
ซากูระร่วงโรย แต่เมื่อฤดูพ้นผ่าน
เจ้าความรักจะผลิใบ ผ่านฤดูใบไม้ร่วง

 
กลิ่นของความรู้สึก เป็นเพียงสายลมที่แผ่ว
ด้วยศรัทธาและความหวัง แล้วสักวันหัวใจจะพบ good day
ซากูระร่วงโรย ไปตามฤดูที่ผ่าน
แต่มิช้าจะผลิใบ ปาฎิหารย์แห่งรักย่อมเกิดขึ้น(มา)
 
ซากุระร่วง มาจากที่นี่ครับ ขอบคุณ
http://board.utadaweb.com/index.php?showtopic=1271&mode=threaded&pid=20337

You Are (Not) Alone



เพลงนี้ Utada Hikaru - นักร้องที่ชอบ - ร้องไว้ในอัลบัม Heart Station (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ) เป็นเพลงประกอบ ภาพยนต์การ์ตูนเรื่อง Evangelion 1.0 You Are (Not) alone -การ์ตูนที่ชอบ- เลยกลายเป็นเพลงที่ชอบขึ้นมา....^_^  บังเอิญไปเจอที่แปลไว้แล้วก็ชอบ เพราะพี่คนนี้เขาแปลดีนะ 
 (แต่ลืมแล้วว่าไปเอามาจากที่ไหน - ขออภัยคนที่แปลเพลงนี้ด้วยนะครับที่ไม่ได้ยกเครดิตมา)  
ที่เอามาก็ไม่ได้อะไรมากมายแค่อยากจะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนหรือว่าอื่นๆอีกหลายคนที่ผ่านมาอ่านก็แค่นั้นเอง
ชอบเพลงนี้เหมือนกัน



เพลง Beautiful World / Utada Hikaru
 ............................. 
It’s only love

หากมีเพียงหนึ่งคำอธิษฐานที่จะกลายเป็นจริง
ก็ขอชั้นได้หลับใหลอยู่เคียงข้างเธอ
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหนก็ตาม
ที่นั่นจะเป็น
Beautiful world
จะคอยมองเพียงเธอโดยไม่หลงหายไปไหน
Beautiful girl
เธอยังไม่รู้ถึงความสวยงามของตนเองอีกเหรอ

It’s only love

จะหลับหรือตื่นก็คงเหมือนการ์ตูนเด็กผู้ชาย (*1)
มัวแต่มองดูความฝัน
เธอไม่ชอบตัวเองอย่างนั้นเหรอ

ไม่รู้ว่าต้องการอะไร
รู้เพียงแค่ต้องการเท่านั้น
แล้วหยดน้ำตาอุ่นๆ ก็ไหลลงมาอาบแก้ม

เรื่องที่อยากจะพูดอะไรน่ะไม่มีหรอก
ชั้นเพียงแค่อยากจะเจออีกซักครั้งเท่านั้น
พูดเรื่องที่อยากจะพูดออกไปไม่ได้
บางทีอาจจะเพราะใจไม่กล้าพอ
แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร

หากมีเพียงหนึ่งคำอธิษฐานที่จะกลายเป็นจริง
ก็ขอชั้นได้หลับใหลอยู่เคียงข้างเธอ
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหนก็ตาม
ที่แห่งนั้นคือ
Beautiful world
จะคอยมองเพียงเธอโดยไม่หลงหายไปไหน
Beautiful girl
เธอยังไม่รู้ถึงความสวยงามของตนเองอีกเหรอ

It’s only love

ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ลองทำเถอะ
เพราะต่อให้ทำพลาด ค่าประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นบ้างแล้วล่ะ

หนังสือพิมพ์อะไรน่ะไม่จำเป็นหรอก
ไม่มีเรื่องสำคัญเขียนไว้หรอกน่า
แล้วช่วงนี้สภาพเป็นยังไงบ้างล่ะ?
ถ้ายังแจ่มใสแข็งแรงอยู่
แค่นั้นก็ดีแล้วล่ะ

หากมีเพียงหนึ่งคำอธิษฐานเพียงที่จะกลายเป็นจริง
ก็ขอชั้นได้หลับใหลอยู่เคียงข้างเธอ
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหนก็ตาม
ที่นั่นคือ
Beautiful world
ในแต่ละวันที่ผ่านไปอย่างเปราะบางว่างเปล่า
Beautiful girl
จะมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ บ้างก็ช่วยไม่ได้หรอกเนอะ

หากมีเพียงหนึ่งคำอธิษฐานที่จะกลายเป็นจริง
ก็ขอชั้นได้หลับใหลอยู่เคียงข้างเธอ
................................... 

http://www.youtube.com/watch?v=0bq6omo6dfA


อยากฟังก็ตามลิงนี้ไปเลยครับ

วันจันทร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2553

น้องสาวอกหัก


น้องสาวอกหัก
ไม่นานมานี้
ผู้หญิงที่ผมรักคนหนึ่งเธออกหัก
เพราะจับได้ว่าผู้ชายที่เธอรักมากคนหนึ่ง "มีกิ๊ก"
เธอเสียใจกับการกระทำของใครคนนั้นมาก
มากจนทำให้เธอกล้าทำในสิ่งที่เธอไม่เคยทำมาก่อน
ผมเป็นห่วงเธอ ใครหลายคนเป็นห่วงเธอ
อยากให้เธอกลับมาเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ที่สดใส ร่าเริง เหมือนวันเก่าๆ
"คนที่เธอรักมากที่สุด อาจไม่ใช่คนที่รักเธอมากที่สุด"
เธอจะรู้หรือเปล่า..........
.......................
ทุกวัน...นอกจากงานที่ทำประจำแล้วผมมักจะ
พิมพ์คำว่า "อกหัก" เสิร์ชหาข้อคิดดีๆในอินเตอร์เน็ตส่งไปให้เธออ่านเสมอ
อยากให้เธอหายดีโดยไว
.............
................
.................
ผมเองเมื่อวันที่โดนผู้หญิงที่รักมากที่สุดทิ้งไปกับผู้ชายที่หน้าตาดีกว่า
ก็ใช้เวลารักษาตัวเองเกือบ 5 ปีเลยที่เดียวกว่าจะหายขาดจากโรคนี้ได้
เข้าใจดีว่ามันเจ็บปวดทรมานแค่ไหนกับเรื่องแบบนี้
..........
...............
..................
แต่กับเธอคนนี้
แค่นาทีเดียวที่เธอเป็นทุกข์
ผมก็รู้สึกเศร้าใจได้มากมาย...
เพราะเข้าใจและไม่อยากให้เธอเป็นเหมือนที่ผมเคยเป็นมา
......................
........................
............................
ผมเลยเขียนบล๊อกนี้ขึ้นมา
เผื่อว่า....ใครที่ผ่านมาจะมีข้อคิดดีๆให้เธอได้อ่านและเข้าใจ
อยากให้เธอหายดีโดยไว

"เราทรมานใจ เพราะว่ารักดำเนินต่อไป โดยยังคงฝังใจอยู่ หาใช่เพราะรักจากไปไม่"